วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประเมินการใช้เครื่องมือบล็อก

การประเมินการใช้บล็อกนี้ให้นักศึกษาที่เรียนวิชานี้ แสดงความคิดเห็นการใช้บล็อกดังนี้
1. นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติงานทำงานส่งอาจารย์แล้วมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร
           การปฏิบัติงานคือการคิดวิเคราะห์ได้ความรู้และความชำนานในการค้นหางานได้ความรู้สิ่งแปรกใหม่และได้ทำงานเสร็จลุลวงตามเป้าหมาย
2. นักศึกษาได้มีความรู้ในเรื่องบล็อกอะไรบ้าง เช่น เครื่องมือการนำเสนอ การใส่ภาพ VDEO ฯลฯ
          ทำให้เราเข้าใจมากขึ้น  เช่น  การทำบล็อกไม่เป็นก็ได้ทำเป็น   สามารถนำรูปภาพมาเสนอได้  และเป็นอุปกรณ์ที่สะดวกและทันสมัย  สามรถนำไปใช้ฝึกสอนและเรียนวิชาอื่นๆได้และเป็นที่เก็บข้อมูลได้สะดวกเมื่อต้องการใช้เมื่อไหร่ก็เปิดดูได้
3. นักศึกษาคิดว่ามีความสะดวกมากน้อยเพียงใดในการใช้บล็อกเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้
        สะดวกมากเพราะการติดต่อกับเพื่อนหรือบุคคลอื่นได้อย่างง่ายดายและสามารถเก็บข้อมูลที่ป้อนเข้าไปได้ไม่จำกัดสามารถเปิดดูได้ทุกที่ เมื่อต้องการ
4. นักศึกษามีความพึงพอใจ ในระดับใด เช่น มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่ แสดงความคิดเห็นและประเมินในเครื่องมือหน้าบล็อกของอาจารย์ เลือกตอบข้อเดียว (เลือกประเมินตามห้องและวิชาเอก)
         มากที่สุด

สอบครั้งที2



สอบครั้งที่ 2
ให้นักศึกษาให้ความหมายของคำศัพท์ต่อไปนี้
 1. Classroom Management การบริหารจัดการในชั้นเรียนการ (Classroom management ) ที่ครูผู้สอนจะจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น การบริหารจัดการในห้องเรียนเป็นเรื่องที่ครูผู้สอนต้องตระหนักถึงเริ่มตั้งแต่ตัวครูต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีบุคลิกภาพที่แสดงถึงความเมตตาและเป็นมิตรกับผู้เรียน รู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล รู้ภูมิหลัง ความถนัดและความสนใจของผู้เรียน
2. Happiness Classroom   การจัดห้องเรียนให้มีความสุข
3. Life-long Educationการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) หมายถึง การรับรู้ความรู้ ทักษะ และเจตคติ ตั้งแต่เกิดจนตายจากบุคคลหรือสถาบันใดๆ โดยสามารถ จะเรียนรู้ด้วยวิธีเรียนต่างๆ อย่างมีระบบหรือไม่มีระบบ โดยตั้งใจหรือโดยบังเอิญก็ได้ ทั้งนี้สามารถทำให้บุคคลนั้นเกิดการพัฒนาตนเองเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตพัฒนาตนเอง และปรับตนเองให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของสังคมการเมืองและเศรษฐกิจของโลก
4.formal Education  การศึกษาในระบบ (Formal Education) เป็นการศึกษาที่มีรูปแบบและระบบแบบแผนชัดเจน มีการกำหนดวัตถุประสงค์ หลักสูตรวิธีการจัดการเรียนการสอน การวัดผล และการประเมินผลที่แน่นอน ซึ่งการศึกษาในระบบของไทยประกอบไปด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษาในขั้นอุดมศึกษา โดยการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถูกแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ
5. Non-formal education การศึกษานอกระบบหมายถึง การจัดการกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ แต่นอกกรอบของการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนปกติ โดยมุ่งบริการให้คนกลุ่มต่างๆ ของประชากร ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่และเด็กโดยเน้นการเรียนรู้ (Learning) แต่ในปัจจุบันการศึกษานอกระบบคือ กระบวนการจัดการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียน ทั้งที่เป็นทัศนคติ ทักษะ และความรู้ซึ่งทำได้ยืดหยุ่นกว่าการเรียนในระบบโรงเรียนทั่วไป
6. E-learning    การเรียน การสอนในลักษณะ หรือรูปแบบใดก็ได้ ซึ่งการถ่ายทอดเนื้อหานั้น กระทำผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ซีดีรอม เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
7. Graded การเรียนระดับชั้น       
8. Policy education นโยบายการศึกษา
9. Vision วิสัยทัศน์ คือ ขอบเขตการมองเห็นด้านความคิด
10. Mission พันธ์กิจ มีคำที่ใช้แทนกันอยู่หลายคำ เช่น ภารกิจหรือปณิธาน พันธะกิจคือ จุดมุ่งหมายพื้นฐานซึ่งแสดงเหตุผลหรืออธิบายว่าทำไมองค์กรจึงถือกำเนิดขึ้นมาหรือดำรงอยู่ เป็นหลักการที่ใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ กำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และยุทธศาสตร์
11. Goals เป้าหมาย (GOAL) คือสิ่งที่เราต้องการไปให้ถึง มาจากความต้องการ ความหวัง จินตนาการ ความใฝ่ฝันที่ผู้บริหารสร้างขึ้น แต่ต้องอยู่ในกรอบที่ไม่เพ้อฝัน และสามารถบรรลุได้ด้วยกระบวนการจัดการเป้าหมายไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความสำเร็จ
12. Objective หมายถึง เป้าหมายเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ
13.backward design การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของครูขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ของครูและการพัฒนาตนเองให้มีความสามารถและมีคุณลักษณะของครูมืออาชีพการเรียนรู้และการทำงานของครูต้องไม่แยกจากกัน ครูควรมีโอกาสเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การเรียนรู้ของครูเกิดจากการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับเพื่อนครู ผู้เชี่ยวชาญ ศึกษานิเทศก์ แล้วนำความรู้เหล่านั้นไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนของตน การไตร่ตรอง ทบทวน พัฒนา ปรับปรุง เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนของครู ทำให้เกิดความเข้าใจผลของการลงมือปฏิบัติ แล้วนำผลการปฏิบัตินั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเผยแพร่ต่อผู้อื่น
14.effectiveness คือ การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในที่นี้หมายถึงทำงานได้อย่างมีคุณภาพและถูกต้อง
15. efficiency คือการทำงานอย่างมีประสิทธิผล
16.Economy เศรษฐกิจ (Economy) คือ การกระทำใด ๆ อันก่อให้เกิด การผลิตการจำหน่ายและการบริโภค
17. Equity ความเสมอภาพ
18. Empowerment   การสร้างเสริมพลังการกระตุ้นเร้าให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความตระหนักในศักยภาพที่ตนมี และดึงศักยภาพนั้นออกมาใช้อย่างเต็มที่และเต็มใจ เพื่อปรับปรุงพัฒนาวิถีชีวิต วิถีการทำงาน ให้บรรลุผลสำเร็จ ซึ่งผลสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้จะมีความต่อเนื่องและยั่งยืน
19. Engagement   การทำให้พนักงานในองค์กรรู้สึกผูกพันกับองค์กรความหมายของ Engagement นั้น จะต้องเป็นพนักงานที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อสร้างผลงานที่ดีเยี่ยมให้กับองค์กรด้วย คือ ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ แล้วบอกว่ารักองค์กร รู้สึกดีกับองค์กร ก็เลยไม่อยากไปไหน แต่ก็ไม่สร้างผลงานใดๆ ที่ดีขึ้นด้วย
20 project    แผนงาน เช่นโครงการ, โครงการวิจัย
21.Actives การกระตือรือร้น เช่น การกระทำอย่างมีชีวิตชีวา
22.Leadership ความสามารถในการเป็นผู้นำ
23. leaders ผู้นำ
24. Follows  ตาม เช่น เดินตาม, ติดตาม, เจริญรอยตาม, ตามอย่าง
25. Situations  สถานการณ์
26. Self  awareness  การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness) หมายถึง การรู้ว่าตนเองมีภาวะภายในอย่างไร มีความ ชอบไม่ชอบในเรื่องอะไรบ้าง มีความสามารถทางด้านใดบ้าง และมีญาณหยั่งรู้
27. Communication   การสื่อสาร (Communication) หมายถึง กระบวนการส่งข่าวสารข้อมูลจากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร  มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสาร มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาโดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ
28. Assertiveness การยืนยันในความคิดตน
29. Time management การบริหารเวลา
30.  POSDCORB หัวหน้าฝ่ายบริหารมีหน้าที่และบทบาททางการบริหารอยู่ 7 ประการ คือ การวางแผน   การจัดองค์การ การบรรจุ  การสั่งการ  การประสานงาน การรายงานและการงบประมาณ
31. Formal Leaders  ผู้บังคับบันชาในหน่วยงานต่างๆ
32. Informal Leaders ผู้นำที่ไม่ใช้ผู้บังคับบันชาเช่นผู้นำของชลเผ่า
33. Environment  สภาพแวดล้อม


34. Globalization   โลกาภิสวัตถ์  การแพร่หลายไปทั่วโลก
33. Competency  ความสามารถเชิงสมรรถนะหมายถึงความรู้   ทักษะ   และความสามารถของมนุษย์ที่แสดงผ่านพฤติกรรม
34. Organization Cultural   ความหมายของวัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture)  วัฒนธรรมองค์กร หมายถึง ค่านิยมและความเชื่อที่มีร่วมกันอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นในองค์การ และใช้เป็นแนวทางในการกำหนดพฤติกรรมของคนในองค์การนั้น วัฒนธรรมองค์การจึงเป็นเสมือน บุคลิกภาพ” (Personality) หรือ จิตวิญญาณ” (Spirit) ขององค์การ
35. Individual Behaviorพฤติกรรมระดับบุคคลนี้ มีองค์ประกอบหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของบุคคล การรับรู้ ทัศนคติ ค่านิยม การจูงใจ
36. Group Behavior พฤติกรรมกลุ่ม (Group Behavior) นอกจากจะศึกษาระดับกลุ่มบุคคลแล้ว อีกระดับหนึ่งที่จำเป็นต้องศึกษา คือ พฤติกรรมระดับกลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากบุคคลจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น ๆ ในหน่วยงาน พฤติกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างบุคคล 2 บุคคล หรือระหว่างบุคคลกับกลุ่มจะมีผล เนื่องมาจากองค์ประกอบหลายอย่างในตัวบุคคล เช่น ความนึกคิดเกี่ยวกับตัวเอง ความต้องการ ประสบการณ์ในการมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น พฤติกรรมของกลุ่มเป็นผลมาจากองค์ประกอบพื้นฐาน เช่น เทคโนโลยี การจัดการสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนพฤติกรรมที่หน่วยงานกำหนดให้ทำ และพฤติกรรมที่ต้องทำเร่งด่วน ซึ่งถูกกำหนดขึ้นโดยกะทันหัน เช่น หน่วยงานมีนโยบานที่จะเร่งปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น ก็อาจจะประกาศหน้าที่ความรับผิดชอบขึ้นใหม่ ผลของพฤติกรรมของกลุ่มนี้จะมีผลต่อผลผลิต ความพึงพอใจ การพัฒนาบุคคล และประสิทธิภาพขององค์กร
37. Organization Behavior พฤติกรรมองค์กร (Organization Behavior) รูปแบบของพฤติกรรมองค์กรนี้ จะแสดงถึงอิทธิพลขององค์ประกอบต่างๆ ในองค์กร พฤติกรรมในระดับนี้ได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่จากบุคคล ซึ่งเป็นผู้นำในองค์กรนั้นๆ ภาวะของผู้เป็นผู้นำจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างให้เกิดพฤติกรรมในระดับสาม ภาวะผู้นำนี้ยังบ่งบอกถึงว่าองค์กรได้เน้นให้มีการสื่อสารมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการติดต่อสื่อสารนี้จะเป็นสิ่งที่ประสานให้องค์กรอยู่ได้
38. Team working การทำงานเป็นกลุ่ม คือ บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมีปฏิสัมพันธ์ (Interacting) ต่อกันและมีการพึ่งพา (Interdependent) ต่อกันและกัน เพื่อจะบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน
39. Six Thinking Hats หรือการคิดแบบหมวก 6 ใบนั้นคือกระบวนการหาความคิดสร้างสรรค์ หรือความคิดใหม่ๆ ที่น่าสนใจและง่ายต่อการนำไปใช้
           1.สีขาว(Information) หมวกใบนี้จะหมายถึง ข้อมูล หรือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งๆนั้น
            2.สีแดง(Feelings) หมวกใบนี้จะหมายถึง อารมณ์ ความรู้สึกที่เรามีต่อสิ่งๆนั้น
3.สีเขียว(Creativity) หมวกใบนี้จะหมายถึง ความคิดสร้างสรรค์
4.สีเหลือง(Benefits) หมวกใบนี้จะหมายถึง การมองโลกในแง่ดี
5.สีดำ (Judgment) หมวกใบนี้จะหมายถึง การมองตรงกันข้าม
6.สีน้ำเงิน(Thinking about thinking) หมวกใบนี้จะหมายถึง การจัดการความคิดทั้งหมด
 40. Classroom Action Research    การวิจัยในชั้นเรียน


วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การสอบ


การสอบ
คำสั่งให้นักศึกษาอ่านแล้วตอบลงในบล็อกดังนี้
1. Classroom management’s นักศึกษามีความเข้าใจความหมายอย่างไร และเกี่ยวข้องกับการศึกษาอย่างไร
Classroom management (การจัดการชั้นเรียน) การจัดการบริหารชั้นเรียนให้มีประโยชน์สูงสุด และมีความรู้ความสามารถความเข้าใจและมีสภาพแวดล้อมในห้องเรียนเอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอนและกระตุ้นให้ผู้เรียนมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ทั้งภายในชั้นเรียน และภายนอกชั้นเรียน การจัดการมีทั้งทางชีวภาพและกายภาพ  

2.ท่านเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานวิชาชีพครู ซึ่งประกอบด้วย มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ มาตรฐานการปฏิบัติงาน มาตรฐานการปฏิบัติตน อย่างไร อธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ
มาตรฐานวิชาชีพครูคือตัวผู้เป็นครูคนที่จะต้องผ่านเกนนี้เพราะเป็นใบที่จะต้องผ่านการรับรองจากทางการว่าท่านสามารถเป็นครูได้  ท่านจะต้องมีความรู้วามามารถมีประสบการณ์ในการสอน มีการประพฤติตัวเหมาะสมที่จะเป็นครู  และมีการปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า1ปี
มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ  หมายถึง  ข้อกำหนดสำหรับผู้ที่จะ เข้ามาประกอบวิชาชีพจะต้องมีความรู้และมีประสบการณ์วิชาชีพเพียงพอที่จะประกอบวิชาชีพ
 ประกอบด้วยมาตรฐาน 2 ส่วนได้แก่
มาตรฐานความรู้ หมายถึง ข้อกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูมีคุณวุฒิทางการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือ เทียบเท่าหรือคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรองโดยต้องมีสาระความรู้และสมรรถนะตามมาตรฐานในเรื่องต่อไปนี้
     1.  ภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู
    2.  การพัฒนาหลักสูตร
    3.  การจัดการเรียนรู้
    4.  จิตวิทยาสำหรับครู
    5.  การวัดและประเมินผลการศึกษา
    6.  การบริหารจัดการในห้องเรียน  
    7.  การวิจัยทางการศึกษา
    8.  นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
    9. ความเป็นครู
มาตรฐานประสบการณ์ของครู
  ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลา
ไม่น้อยกว่า 1 ปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่
คณะกรรมการคุรุสภากำหนด ดังนี้
    1.  การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน
    2.  การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะ
มาตรฐานการปฏิบัติงาน
- ปฏิบัติกิจกรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาชีพครูอยู่เสมอ
- ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ โดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดแก่ผู้เรียน
- มุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ
- พัฒนาแผนการสอนให้สามารถปฏิบัติได้เกิดผลจริง
- พัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
- จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผลถาวรที่เกิดแก่ผู้เรียน
- รายงานผลกรพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนได้อย่างมีระบบ
- ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีกับผู้เรียน
- ร่วมมือกับผู้อื่นในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์
- ร่วมมือกับผู้อื่นในชุมชนอย่างสร้างสรรค์
- แสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา
- สร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์
3. มาตรฐานการปฏิบัติตน หมายถึง ข้อกำหนดเกี่ยวกับความประพฤติของผู้ปฏิบัติวิชาชีพ จะต้องประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณของมาตรฐานวิชาชีพครู ๕ ประการ
- จรรยาบรรณต่อตนเอง
- จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
- จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
- จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
- จรรยาบรรณต่อสังคม
ตัวอย่างเช่น  เราควรที่จะพัฒนาตนเองให้แสดงออกทางร่างกาย กริยา วาจา อย่างสง่างาม เหมาะสมกับกาลเทศะ   รักษาสุขภาพและปรับปรุงบุคลิกภาพอยู่เสมอ มีความเชื่อมั่นในตนเอง  แต่งกายสะอาดเหมาะสมกับกาลเทศะและทันสมัยมีความกระตือรือร้น ไวต่อความรู้สึกของสังคมฯลฯ

3.ท่านมีแนวคิดหรือหลักการจัดชั้นเรียนในโรงเรียน อย่างไรที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน
          การจัดการชั้นเรียนให้มีประโยชน์สูงสุด  เริ่มจากการจัดการในชั้นเรียนให้เหมาะแก่การศึกษาหาความรู้และเป็นที่น่าสนใจและมองดูแล้วให้เด็กอยากที่จะมาเรียนไม่เบื่อเช่นจัดตั้งโต๊ะห้องเรียนให้เป็นรูปตัวยูหรือแบบจับเด็กนั่งคู่กัน                 การจัดการชั้นเรียนที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มบรรยายกาดในการเรียนรู้ของเด็กและมีความเอื้ออำนวยในการเรียนรู้ของเด็กเพราะบรรยากาศที่ดีจะทำให้เด็กมีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น
           แบ่งปันความรู้ให้นักเรียนให้มากที่สุดไม่เก็บไว้สอนพิเศษนอกเวลาเรียนหรือเก็บไว้คนเดียว ให้เด็กทำงานเป็นกลุ่มให้คิดวิเคราะห์และให้สรุปมาเป็นงานเดียวอีกครั้งเพื่อเด็กจะได้ร่วมมือกันทำและให้ความสนใจกับงานและครูจะตองเดินดูเด็กภายในห้องเรียนให้ทั่วถึง
           ท้องสูตรศูนย์ทุกตอนเช้า   ตอนเย็นก่อนเลิกเรียนก็ให้เด็กท้องภาษาอังกฤษวันละ10 คำ เพื่อเด็กได้มีความรู้เพิ่มเติมนอกเวลาเรียน

4.ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการจัดการชั้นเรียนในโรงเรียน ได้แก่ (1) การจัดภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมบริเวณโรงเรียน (2) สภาพอาคารเรียนและความปลอดภัย ท่านมีแนวคิดในการพัฒนา (1) และข้อ (2) อย่างไร ที่จะทำให้โรงเรียนประสบผลสำเร็จดังกล่าว
             การจัดภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมบริเวณโรงเรียนจัดให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดเพื่อให้เด็กอยากมาโรงเรียน และ การถูกสุขลักษณะ ความร่มรื่น ความสวยงาม ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสะดวกก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะมีบรรยากาศที่ดี และไม่เผาขยะเวลาเรียนเพราะการเผาขยะทำให้กลิ่นหรือฝันไฟมารบกวนตอนที่เด็กกำลังเรียนอยู่ควรจะเผาเวลาหลังโรงเรียนเลิกไปแล้วและควรมีอุปกรที่หลากหลายให้เด็กได้เล่นและให้เด็กได้ศึกษาหาความรู้
             ควรมีเวนประจำวันให้เด็กทำความสะอาดบริเวณรอบโรงเรียนและการทำความสะอาดห้องน้ำเพื่อสุภาพจิตและถูกหลักนามัย
              สภาพอาคารเรียนและความปลอดภัยควรมีการดูแลและเช็คสภาพตัวอาคารทุกปีว่ามีการชำรุจที่ตรงหรือไหมแตกร้าวตรงไหนบ้างและปรับทำการแก้ไขทันทีที่มีการชำรุดหรือคิดว่าจะเกิดอันตรายต่อเด็ก


5.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตคำว่าคุณภาพผู้เรียนท่านมีความเข้าใจอย่างไรอธิบายยกตัวอย่างประกอบ ในทัศนคติของนักศึกษาครู
               จะต้องมีความรู้ความสามารถวามเข้าใจนำความรู้ที่ได้ไปสอนคนอื่นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สามารถเป็นแบบอยางที่ดีได้  มีความรู้เต็มศักยภาพไม่ใช้รู้แบบงูๆปลาๆและมีประสบการณ์หลายๆด้าน  เช่น  ในการปฏิบัติงาน  การทำกิจกรรมสามารถทำงานรวมกับคนอื่นได้    ต้องมีคุณธรรมและจรรยาบรรณในการเป็นครู
6.ผลจากการประเมินพบว่าในปัจจุบันนี้ นักเรียนของประเทศไทย ยังมีปัญหาเกี่ยวกับจริยธรรมและคุณธรรมเป็นอย่างมาก ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะมีวิธีการอย่างไรที่จะกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นจริยธรรมและคุณธรรมให้เกิดขึ้นกับนักเรียน อธิบายและยกตัวอย่างประกอบ
      สอนโดยการเอาธรรมมายึดเหนียวจิตใจ  เช่น  การได้รู้ถึงบาปที่จะตามมาทำให้เด็กกลัวและปฏิบัติตาม    และเรียนเรื่องมารยาทไทย เช่น การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีทำให้ผู้คนอื่นรักไคลและน่านับถือ
         


กิจกรรมที่ 14



การสอนโดยใช้
Mind Map ช่วยให้การเรียนการสอนง่ายและสนุกสนานได้หลายวิธี เช่น
1.ใช้เตรียมการสอน  เพราะจะทำให้สามารถสอนแบบธรรมชาติและเป็นระบบ
2.วางแผนรายปี  ช่วยให้ครูเห็นแผนการสอนตอลดทั้งปีการศึกษา
3.วางแผนรายภาคเรียน  ช่วยให้ครูรู้ว่าภาคนี้จะสอนอะไรบ้าง
4.วางแผนรายวัน  ลงรายละเอียดทบทวนบทเรียนเดิมที่จะสอนนักเรียน
5.การสอน  เป็นการใช้ขณะสอนนักเรียนในชั้นเรียน
6.การสอบของนักเรียน  เป็นการวัดความรู้  ความสามารถ  ความเข้าใจของนักเรียนได้ดี
7.โครงการ/โครงงาน  ใช้ทำกิจกรรม  หรือ นิทรรศการ  หรือ วางแผนงาน

ข้อดีของการใช้ Mind Map ช่วยสอน
                 ช่วยให้นักเรียนสนใจเรียน     มีความคิดสร้างสรรค์สนุกสนาน  ไม่ซ้ำซาก  ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย นักเรียนรับรู้และเรียนรู้ได้ดีขึ้นนักเรียนเข้าใจได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
      เป็นสิ่งกระตุ้นให้เด็กแยกแยะและพัฒนาสมอง
 

วิธีการสอนโดยใช้เครื่องมือหมวก 6 ใบ กับโครงงานแตกต่างกันอย่างไร
                การสอนแบบหมวก 6 ใบนั้นมันจะคลอบคลุม พฤติกรรมทุกด้านที่สามารถนำไปปฎิบัติตามได้โดยมีรายละเอียดดังนี้
หมวกสีขาว
            การคิดแบบหมวกสีขาวเป็นระเบียบวิธีและแนวทางในการเสนอข้อมูล  นักคิดต้องพยายามเป็นกลางให้มากและไม่ควรมีอคติ  สีขาวชี้ให้เห็นถึงความเป็นกลาง  ข้อมูลครอบคลุมได้ตั้งแต่ข้อเท็จจริงและตัวเลขที่ตรวจสอบได้  ไปจนถึงข้อมูลที่ไม่แน่นอน  เราจะใช้หมวกขาวตอนเริ่มต้นของกระบวนการคิด  เพื่อเป็นความคิดที่กำลังจะเกิดขึ้น  และเราก็สามารถใช้หมวกสีขาวในตอนท้ายของกระบวนการได้เหมือนกัน  เพื่อทำการประเมิน  เช่น  เสนอโครงการต่างๆของเราเหมาะสมกับข้อมูลที่มีอยู่หรือไม่  ส่วนที่สำคัญของหมวกสีขาวคือ  การ ระบุถึงข้อมูลที่จำเป็นและขาดหายไปหมวกขาวจะบอกถึงปัญหาที่ควรจะยกขึ้นมาถาม และแสดงวิธีการเพื่อให้ได้มาเพื่อข้อมูลทีจำเป็นและมุ่งไปสู่การเสาะหาและตีแผ่ข้อมูล
 หมวกสีแดง
            การใช้หมวกสีแดงจะทำให้มีโอกาสเปิดเผยความรู้สึก  อารมณ์  สัญชาตญาณหยั่งรู้ออกมาโดยไม่ต้องมีคำอธิบายหรือหาเหตุผลใด ๆ  สัญชาตญาณอาจจะอยู่บนพื้นฐานของประสบการณ์ที่ผ่านมา  เจตนารมณ์ของหมวกแดงคือ  การแสดงความรู้สึกอย่างที่เป็นอยู่ออกมาไม่ใช่การบีบบังคับให้ตัดสินใจ  อารมณ์ทำให้ความคิดยุ่งเหยิง หมวกสีแดงเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการช่วยให้อารมณ์เหล่านั้นเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลยอมรับได้   สิ่งที่ยากที่สุดในการสวมหมวกสีแดงคือ  การฝึกความรู้สึกที่ยากจะหาเหตุผลให้กับอารมณ์ที่แสดงออกมา  ซึ่งการหาเหตุผลนั้นอาจถูกหรือผิดก็ได้
 หมวกสีดำ
                หมวกคิดสีดำคือหมวกแห่งการระแวดระวังภัย  ในการพิจารณข้อคิดเห็น  ข้อเสนอแนะหรือเรื่องอะไรก็ตาม  เมื่อถึงจุดหนึ่ง  เราก็ต้องนึกถึงความเสี่ยง  อันตราย  อุปสรรค  ข้อด้อยหรือปัญหาที่อาจจะเกิด  หมวกสีดำชี้ให้เห็นชี้ให้เห็นสิ่งที่เราควรใส่ใจและไตร่ตรองเพราะมันเป็นจุดอ่อนหรือเป็นอันตราย  เราอาจใช้หมวกสีดำเป็นส่วนหนึ่งของการประเมิน    เราควรเดินหน้าไปกับข้อเสนอนี้ไหม  หรืออาจใช้หมวกสีดำในขั้นตอนการระดมสมองและก่อร่างสร้างแนวคิด  มีจุดอ่อนอะไรบ้างที่เราควรหาทางป้องกันและแก้ไข  หมวกสีดำจะช่วยแจกแจงให้เราเห็นภาพความเสี่ยงและปัญหาที่อาจเกิดข้น  หมวกสีดำจะมองหาความสอดคล้อง  กับประสบการณ์ที่ผ่านมาหรือไม่  สอดคล้องกับนโยบายและวิธีการกับจริยธรรมค่านิยม  ทรัพยากร  และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงและประสบการณ์ของผู้อื่นหรือไม่
หมวกสีเหลือง
                การคิดแบบหมวกสีเหลืองเป็นการคิดในแง่ดีและในเชิงสร้างสรรค์  และเป็นการคิดประเมินค่าในทางบวกรวมไปถึงความฝันและวิสัยทัศน์  การคิดแบบหมวกเหลืองเป็นการสำรวจหาคุณค่าและประโยชน์แล้วจึงพยามยามจะหาเหตุผลสนับสนุนคุณค่าและผลประโยชน์นั้นๆ   จากความคิดจากหมวกเหลืองเราจะได้ข้อเสนอและข้อแนะนำที่เป็นรูปธรรม  การคิดแบบหมวกสีเหลืองเกี่ยวข้องกับการทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น  อาจเป็นการคาดการณ์และการมองหาโอกาสและจะก่อให้เกิดวิสัยทัศน์จินตนาการและความฝัน
หมวกสีเขียว
                หมวกสีเขียวเป็นหมวกแห่งพลังงาน  หมวกแห่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  หมวกสีเขียวจะผลักดันความคิดใหม่ๆออกมาและยังคิดถึงทางเลือกใหม่หรือสิ่งใหม่ที่ทดแทนของเก่าได้   รวมถึงทางเลือกที่ชัดเจนและใหม่สดจริงๆ  เมื่อเราสวมหมวกเขียวเราหาวิธีปรับเปลี่ยนและปรับปรุงความคิดใหม่ที่เสนอมา  การค้นหาทางเลือกเป็นพื้นฐานของหมวกคิดสีเขียว  เราจะต้องไปให้ไกลกว่าความคิดเห็นที่รู้กันแล้วหรือเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว  ความคิดอาจหยุดเพื่อคิดสร้างสรรค์เพื่อพิจารณาว่ามีทางเลือกอื่นๆอีกหรือไม่  โดยไม่ต้องมีเหตุผลว่าทำไมจึงต้องหยุด  เราใช้การเลื่อนไหวความคิดเข้ามาแทนที่การตัดสินพิจารณาความคิด   การคิดเคลื่อนไหวไปข้างหน้า  เพื่อไปให้ถึงความคิดใหม่ความคิดเชิงยั่วยุใช้เพื่อกระตุกเราให้หลุดจากแบบแผนความคิดแบบเดิมหรือการคิดนอกกรอบ


หมวกสีฟ้า
                หมวกคิดสีฟ้าจะกำหนดประเด็นที่เราจะต้องคิด  กำหนดความสนใจ  อะไรคือปัญหาอะไรคือคำตอบ  หมวกสีฟ้าจะกำหนดงานที่จะกำหนดงานคิดที่จะต้องทำ  ตั้งแต้ต้นจนจบและมีหน้าที่สรุป   วิเคราะห์สถานการณ์  และลงมติต่าง ๆ  หมวกคิดสีฟ้าต้องติดตามตรวจสอบการคิดเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามกติกาการคิด  หมวกคิดสีฟ้าจะหยุดยั้งการโต้แย้งถกเถียง  และยืนกรานตามแผนที่ความคิด  จะคอยดูให้กระบวนการคิดเป็นไปตามกฎเกณฑ์
การสอนแบบโครงงาน
              การสอนแบบโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียน  เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งตามความสนใจของผู้เรียนอย่างลุ่มลึก  โดยผ่านกระบวนการหลักคือ กระบวนการแก้ปัญหา  ผู้เรียนจะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเพื่อค้นหาคำตอบด้วยตนเอง  จึง เป็นการเรียนรู้จากการได้มีประสบการณ์ตรงจากแหล่งเรียนรู้การให้นักเรียนผู้ ทำโครงงานได้เสนอผลงาน เป็นการเผยแพร่ผลงาน กิจกรรมนี้จะส่งเสริมให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออก เชื่อมั่นในผลงาน ตอบข้อซักถามของผู้สนใจได้  จากปีการศึกษา  2548-2550  ที่ ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของสาธารณะชนว่า กิจกรรมการสอนแบบโครงงานเป็นที่น่าภาคภูมิใจโดยเฉพาะนักเรียนได้รับเกียรติ บัตรรางวัลในระดับการประกวดโครงงานต่าง ๆ มากมาย เช่น      โครงงานน้ำส้มพันธุ์ไม้
      โครงงานผ้าสวยด้วยสมุนไพร
ซึ่งโครงงานเหล่านี้นักเรียนได้รับเกียรติบัตรจากการประกวดในระดับเครือข่าย  ระดับเขต  ระดับจังหวัด สร้างความภูมิใจให้นักเรียนและครูผู้เป็นที่ปรึกษา  นับว่าเป็นกิจกรรมที่ประสบผลสำเร็จที่เกิดจากผลผลิตของการจัดกิจกรรมการเรียนแบบโครงงานทั้งสิ้น
โดยสรุปแล้วมีความแตกต่างกันคือหมวก6ใบเป็นวิธีคิดแบบรอบด้านมีความละเอียดมากกว่าโครงงานแต่ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเรียนแบบ หมวก 6 ใบ หรือแบบโครงงานล้วนก็มีข้อแตกต่างกันอยู่บ้างแต่ก็มีความสำคัญทั้ง 2 อย่าง โดยเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวเราได้เมือเราออกไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูและได้พัฒนาความรู้ให้มีประสิทธิภาพและรอบรู้ทุกด้าน




กิจกรรมที่13

        คำถามที่ผมอยากให้ทุกคนร่วมกันคิด โดยเฉพาะผู้จะเป็นครู คือ
         1) ในปัจจุบัน เด็กไทย (รวมถึงผู้ใหญ่ไทย) มีสุขนิสัยที่ดี ในเรื่องพฤติกรรมการบริโภค พฤติกรรมสุขภาพ ที่เหมาะสมหรือไม่ เพียงใด  
        ในปัจจุบัน เด็กไทยรวมถึงผู้ใหญ่ไทย ไม่ค่อยมีความใสใจเรื่องต่างๆที่เอยมา เด็กไทยในปัจจุบันมีนิสัยที่ก้าวราว มีอารมณ์ที่รุนแรง   มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่นดื่มเลา   เมายา ผู้ใหญ่ก็มีนิสัยอีกแบบคือมีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น   ไม่ค่อยให้ความน่านับถือแก่เด็กและเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ได้  แต่บางคนที่ก็ดีมากไป  จนใช้ชีวิติอยู่ในสังคมปัจจุบันไม่ได้ต้องอยู่อย่างลำบากเพระความแกงแย่งชิงดีกัน
        ในเรื่องพฤติกรรมการบริโภค  การบริโภคของคนปัจจุบันไม่ค่อยเน้นเรื่องของการมีคุณภาพหรือไม่มี   แต่เน้นไปทางด้านรสนิยมกันเป็นจำนวนมากพฤติกรรมการบริโภคจึงน่าเป็นห่วงมากในปัจจุบัน  แต่มีคนส่วนใหญ่ที่เน้นเรื่องนี้มากๆเพราะการมีสุขภาพที่แข็งแรงและยืนยาวถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
         พฤติกรรมสุขภาพ  คนในปัจจุบันมีสุขภาพที่ไม่ค่อยดีนักเพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย   อาหารที่ได้รับเข้าไปก็ไม่ค่อยมีประโยชน์   ที่จะได้รับหรือการตอบสนองต่อร่างกาย  คนไทยจึงมีสุขภาพย่ำแย่ป่ายกันมาก มีอายุไม่ค่อยยืนยาวไม่เหมือนคนสมัยก่อนมีอายุยืนเพราะอาหารการกินไม่มีสารพิษ  ไม่มีสิ่งเจือปนมากนักและได้ออกกำลังกายบ้างเช่นการทำไร่  ทำนาถือว่าได้มีการเคลื่อนไหวของร่างกายอยู่บาง
       2) ในปัจจุบันเด็กไทย (รวมถึงผู้ใหญ่ไทย) มีกีฬาประจำตัว มีปฏิทินการออกกำลังกาย และได้ออกกำลังกายตามปฏิทินอย่างจริงจัง มากน้อยเพียงใด (ทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาล แพทย์ไทย มักจะถาม     คำถามว่า มีโรคประจำตัวอะไรบ้างแต่ไม่เคยถามว่า หนู มีกีฬาประจำตัวหรือไม่ มีปฏิทินออก กำลังกายไหม)
        ส่วนใหญ่การมีกีฬาประจำตัวเป็นของตัวเองส่วนมากจะเป็นนักกีฬามากกว่า และเป็นส่วนน้อยที่คนจะใส่ใจเรื่องนี้ จึงมีคนไม่มากนักที่จะมีกีฬาประจำตัวหรือมีปฏิทินไว้ออกกำลังกาย
        การที่ไปโรงพยาบาลแล้วคุณหมอถามว่าท่านมีโรคประจำตัวไหม มันก็ถูกของเขาถ้าไม่ถามจะรักษาถูกได้อย่างไร  แต่ถ้าเป็นการถามเรื่องมีกีฬาประจำตัวหรือเปล่ามีปฏิทินในการออกกำลังกายมันก็สมควรที่จะถามเพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นและกระตุ้นให้เด็กไทยและผู้ใหญ่ไทยได้มีจิตสำนึกในการรักษาสุขภาพของตัวเองไม่ให้เจ็บป่วย
       3) เด็กไทยมีความสามารถในการบริหารสุขภาพจิต การควบคุมอารมณ์ หรือการพัฒนาบุคลิกภาพหรือไม่ เพียงใด (ดูได้จากบรรยากาศการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในทันทีที่มีการประกาศผลการแข่งขัน จะมี 1 ทีมที่ร้องให้ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้)
       ประมาณ40%ที่เด็กไทยไม่สามารถบริหารสุขภาพจิตและควบคุมอารมณ์ได้เพราะการเลี้ยงดูครอบครัวไม่เหมือนกันเด็กอาจมีนิสัยมีพฤติกรรมตามสภาพที่ครอบครัวเป็นอยู่ ในปัจจุบันเหมือนกับที่ยกตัวอย่างในเรื่องการแข็งขันชิงชนะเลิศ เด็กบางคนอาจร้องให้ในการแพ้ และมีอารมณ์รุนแรง มีการทะเลอะวิวาทและมีพฤติกรรมที่แสดงออกไม่เหมาะสมหรือผิหวังเรียงการเรียนอาจฆ่าตัวตายก็มี
       แต่เด็กประมาณ60%จะมีพฤติกรรมที่น่ารักสามารถยอมรับและทำใจได้ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหนก็ทนได้มีสุขภาพจิตและอารมณ์ที่มันคง ไม่เกิดความหวั่นไหวจากสิ่งต่างๆและไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
       การพัฒนาบุคลิกภาพเด็กไทยและผู้ใหญ่ไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้นเพราะทำให้ตัวเองดูสง่าและเป็นที่นับถือแก่ผู้คนที่พบเห็นแต่ก็เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่นัก
       4) ขณะนี้โรงเรียนได้ให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็ก พอ ๆ กับ การส่งเสริมด้านวิชาการหรือไม่ โดยเฉพาะในโรงเรียนที่ได้รับค่านิยมสูง (มีชื่อเสียง)
ไม่เพราะโรงเรียนไม่ค่อยให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตสักเท่าไหร่ก็มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับเรื่องด้านวิชาการโดยเฉพาะโรงเรียนที่มีได้รับค่านิยมสูงจึงเน้นเรื่องหนาตาและชื้อเสียงของโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ทำกิจกรรมแค่เอาหน้าตาให้กับโรงเรียนหรือเรียกว่าผักชีโรยหน้า
       5) เมื่อเปิดภาคเรียน ภายใน 2 สัปดาห์แรก ครูประจาชั้นได้ทาความรู้จักกับนักเรียนมากน้อยเพียงใด มีการจำแนกเด็กนักเรียนเป็นกลุ่มเสี่ยง-กลุ่มปกติหรือไม่ (กลุ่มเสี่ยงหมายถึง ผลการเรียนอ่อน สุขภาพไม่ดี มีปัญหาทางครอบครัว รวมถึงมีผลการเรียนดีมาก เกรดเฉลี่ย 4.00 มาโดยตลอด ซึ่งจะเสี่ยงในเรื่องความเครียด)
           ครูส่วนใหญ่จะแนะนำตัวเองและให้เด็กแนะนำตัวเองและทำความรู้จักกับเพื่อนในห้อง    แต่การจำแนกเด็กเป็นกลุ่มเสียงหรือกลุ่มปกติ  เช่น ผลการเรียนอ่อนสุขภาพไม่ดี มีปันหาครอบครัว รวมไปถึงผลการเรียนดีมากในที่กล่าวมาครูส่วนใหญ่จะไม่แยกเด็กออกจากกันเพราะตัวของเด็กจะถูกมองเป็นปมดอยของคนอื่นๆ และไม่สามารถที่จะพัฒนาตนเองได้ต้องมีเพื่อนที่เก่งกว่าลากเขาไปด้วยจึงควรอยู่กันเพื่อได้ให้ความช่วยเหลือซึ้งกันและกันจะดูกลมกลืนกับไปกับเด็กทั้งไปไม่ทำให้เขารู้สึกมีปมด้อยและไม่ทำให้เด็กเครียดและครอบครัวควรเอาใจใส่เด็กไม่ควรคาดหวังจากตัวเด็กมากเกินไปในเรื่องผลการเรียนเพราะจะทำให้เด็กถูกกดดันและเกิดความเครียดจึงไม่มีคนให้คำปรึกษาหาทางออกไม่ได้

       6) ครูประจาชั้น หรือโรงเรียนได้จัดระบบดูแล-ช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยงอย่างไรบ้าง เพื่อลดความเสี่ยงในชีวิต(สมัยที่ผมเป็นครูประจำชั้น ผมจะประกาศรายชื่อผู้ช่วยอาจารย์ประจำชั้นโดยเลือกจากนักเรียนกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้นักเรียนเหล่านี้มีโอกาสทางานใกล้ชิดกับครู มีการประชุมร่วมกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง)
          ให้ความรักความอบอุ่นและให้คำปรึกษาให้เด็กมีความใกล้ชิดอาจารย์หรือผู้ปกครองที่พอจะให้คำปรึกษาได้ และการสอนต้องไม่ทำให้เด็กเครียดและทางโรงเรียนจะต้องเน้นเนื้อหาด้านสุขภาพจิตรและอารมณ์  ฝึกให้เด็กมีความเข้มแข็งและความอดทน  เช่นส่งเสริมให้เด็กจัดกิจกรรม  จัดเป็นกลุ่มระบบครอบครัว  ในแต่ละสัปดาห์ให้รวมกันทำกิจกรรมรวมกันส่งเสริมให้เด็กกล้าคิด กล้าแสดงออก  ทำให้ไม่เครียดและได้มีเพื่อนใหม่มากขึ้น
       7) โรงเรียนมีการพัฒนารายวิชา (วิชาเลือก/วิชาเพิ่มเติม) ที่เกี่ยวข้องกับ การควบคุมอารมณ์ การพัฒนาบุคลิกภาพ การบริหารจัดการกับปัญหาสุขภาพจิต ฯลฯ หรือไม่ (หลักสูตรประเทศสิงค์โปร์ เด็กอนุบาล ต้องเรียนวิชา การควบคุมอารมณ์”)
        โรงเรียนบางแห่งมีการพัฒนาบุคลิกภาพ   เช่าวิชาเต้นแอโรบิด    บาสเกตบอล    หรือชมรมมารยาทไทย   แต่การควบคุมอารมณ์กับสุขภาพจิตจะไปเน้นในโรงเรียนเด็กพิพิเศษมากกว่าจึงทำให้เด็กทั่วไปไม่ค่อยได้รับการสอนด้านนี้มากเท่าไหร่  จึงทำให้มีปันหาเกิดขึ้นมาก ทั้งในเรื่องอารมณ์   จิตรใจ  และการทำรายตัวเอง
       8) โรงเรียนมีการประเมินมาตรฐานด้าน สุขภาพกาย และสุขภาพจิต เป็นระยะ ๆ อย่างจริงจังมากน้อยเพียงใด
โรงเรียนโดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการประเมินในเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตแต่เน้นเรื่องวิชาการมากกว่า
       9) โรงเรียนมีแบบประเมิน/แบบสังเกตภาวะสุขภาพกาย สุขภาพจิตของนักเรียน เพื่อครูประจาชั้น และ พ่อแม่ใช้ในการสังเกต-ประเมินนักเรียนในความรับผิดชอบ หรือบุตรหลานของตนเอง หรือไม่
มีแต่น้อยมากในแต่ละปีจะมีครั้งเดียวที่มีการประเมินสังเกตภาวะสุขภาพกายและสุขภาพจิตรของนักศึกษาและมีการไปเยี่ยมบ้านของนักเรียนว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร  การประเมินควรจะมีทุกเทอมเพราะเป็นการดูแลช่วยเหลือเด็กอย่างใกล้ชิดและได้ลดปัญหาในเรื่องอื่นๆเช่นปัญหายาเสพติด   ปัญหาเด็กฆ่าตัวตาย

กิจกรรมที่12

ออกภาคสนามศึกษานอกสถานที่
ระหว่างวันที่   17-23   มกราคม   2554   หลักสูตรสังคมศึกษาได้จัดทัศนะศึกษาภาคเหนือ   จังหวัดเชียงใหม่   เชียงราย   แพร่   น่าน สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา    กรุงเทพมหานคร
นางสาวมลฤดี   สังข์ทอง  รหัส5111116006
                                   กลุ่มเรียน01   คณะครุศาสตร์   เอกสังคมศึกษา
             เป็นการศึกษาสิ่งแปรกใหม่นอกสถานที่ ที่ยอดดอยอินนนท์  อากาศหนาวเย็นมากเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เคยสัมผัสความเย็นแบบนี้มาก่อน    มองไปรอบๆเป็นป่าทึบ   ต้นไม้หนาแน่น  ไปถึงจัดการที่พักอะไรเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำ  น้ำเย็นมากเหมือนน้ำที่ใส่น้ำแข็งลงไป     อาบน้ำเสร็จแล้วก็ไปนั่งกับเพื่อนๆเพื่อที่จะผิงไฟให้มีความอบอุ่นแก่ร่างกายเพราะอากาศหนาวมาก ต้องใส่เสื้อกันหนาวตลอดเวลา    นั่งจนดึกและเข้านอน ตอนแรกนึกว่าจะนอนหนาวมาก แต่ที่ไหนได้กลับอบอุ่นและนอนหลับสบาย  ได้พูดคุยกับเพื่อนๆจนหลับไป
            ตื่นอีกทีตอนตี4  ลุกขึ้นไปล้างหน้า  แปลงฟันน้ำเย็นมากกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาอีกถ้าในตอนเช้านี้อาบน้ำคงไม่สบายเข้าโรงพยาบาลแน่และวันนั้นก็เลยไม่ได้อาบน้ำ    และก็เป็นคนกลัวความหนาวอยู่ด้วย   ตอนตี 5  รถของที่นั้นก็มารับพวกเราไปยอดดอยอินทนนท์ตอนนั่งในรถไม่รู้สึกหนาวเย็นเท่าไหร่แต่ตอนลงจากรถหนาวมาก  หนาวถึงกระดูก แทบเดินไม่ไหว  อาการหนาวเมื่อคืนที่ผ่านมาเทียบกันแล้วที่นี้หนาวเย็นมากกว่าหลายเท่า   และได้ดูทะเลหมอกตอนพระอาทิตย์ขึ้นเป็นบรรยากาศที่สวยมากและมีหุบเขาที่สลับซับซ้อนกันอย่างสวยงามและมีธรรมชาติที่ริสุทธ์   มีเมฆหมอกหนาลอยเต็มไปหมด   รู้สึกได้ที่มาสัมผัสกับผิวกายของข้าพเจ้า   มีดอกไม้ต่างๆมากมายหลากหลายพันธุ์  มีทั้งไม้ดอก  ไม้ประดับ    อีกอย่างที่น่าสนใจมากคือนกหายากที่มีมากกว่า 400 ชนิด ที่ไม่ได้เห็นข้าพเจ้าเสียดายมากเพราะไม่รู้เมื่อไหร่จะได้มาอีก มียอดพระธาตุที่สวยงาม  มีพระพุทธรูป ไว้ไหว้บูชาปฏิบัติธรรมเพื่อความเป็นศิริมงคลกับคนที่มาเที่ยวและมากลาบไหว้ นักท่องเที่ยวมีหลายประเทศที่มาเทียวที่นี้เพื่อรับอากาศที่บริสุทธ์  อากาศที่แห่งนี้เย็นแบบแหงๆ   มองไปก็เป็นป่าทึบมีหมอกเต็มไปหมด ความหนาวเย็นในครั้งนี้คงจะจำได้ไปอีกนานและไปเที่ยวครั้งนี้ได้ไปไหว้พระทำบุญเพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับตัวเอง

       วัดพระแก้วและวัดโพเป็นวัดที่สวยมากมีศิลปกรรมที่หลากหลาย สวยงามมีความประณีตในการทำและผู้คนเยอะมาก  เป็นวัดที่ใครๆอยากมาดูวัดโพมีฤๅษีดัดตน  ตั้งอยู่บริเวณวัด  และมีพระพุทธรูปรูปใหญ่มากนอนประทับอยู่ที่วัดแห่งนี้ 

          วัดรองขุนเป็นวัดที่สวยงามมากๆดูแล้วสะอาดตา   สบายใจเต็มไปด้ายสีขาวไปทั้งวัดและดูมาอีกด้านเป็นสีทอง   ในโบสถ์วัดตามผาพนังวัดมีการวาดภาพของชั้นสวรรค์และภาพการ์ตูนให้เด็กได้ดูเป็นข้อคิดและได้ศึกษาหาความรู้สิ่งใหม่ๆ
             อยุธยาเป็นแหล่งโบราณสถานที่ถูกทำลายสมัยก่อน ที่หลงเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูได้ชมความสวยงามที่ยังหลงเหลื่ออยู่และเป็นที่ให้การศึกษาเรื่องราวต่างๆของประวัติศาสตร์  ในครั้งนี้ที่ข้าพเจ้าได้ไปข้าพเจ้าได้ความรู้เพิ่มเติมอีกเยอะ เป็นที่ๆสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนและไม่ใช้ที่นี้แห่งเดียวที่ได้ความรู้แต่เป็นทุกที่ที่ข้าพเจ้าได้ไปศึกษาและเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว และระหว่างทางได้ศึกษาหาความรู้ไปบาง นอนหลับไปบาง มีอาจารย์คอยบรรยายให้ความรู้อยู่เช่นในเรื่องภูมิศาสตร์  ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของสถานที่นั้น
             แพะเมืองผีอยู่ระหว่างตำบลทุ่งโอ่งและตำบลน้ำชำ  อำเภอเมือง   จังหวัดแพร่  มีลำธารเล็กๆไหล่ผ่านในสมัยโบราณเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์  ซึ้งชาวบ้านตำบลทุ่งโอ่งจังหวัดไก้ลเคียงให้ความนับถือมากเพระมีประวัติความเป็นมาลึกลับ  คนโบราณเล่าสืบต่อกันมาว่า  มีคนแก่เขาไปในป่าหาผักหาหน่อไม้  ได้หลงเข้าไปในที่แห่งนี้พบหลุมเงินพบหลุมทองจนเอาเงินเอาทองใสหาบจนเต็มจะเอากลับบ้านแต่หลงไปหลงมาในป่าแห่งนั้นเพราะเทวดาอาระขาเจ้าถิ่นนั้นไม่ให้เอาไป เพียงแต่เอามาอวดให้เห็นจึงหาหนทางเอากลับไม่ได้จึงได้ว่างหาบนั้นไวจัดแจงตัดไม้มาคาดทำเป็นราว  พอถึงบ้านแล้วกลับไปเอาเงินเอาทองตามที่คาดไว้ออกไปก็ไม่ถึงสักที ยิ่งยกเท้าไปข้างหน้าเหมือนยกถอยหลัง จึงวางหาบไหว้ที่นั้นแล้วเรียกชาวบ้านมาดูหาบเงินหาบทอง  ชาวบ้านก็หลังไหลเข้าไปดูเป็นจำนวนมาก  เมื่อไปถึงเงินทองนั้นกลับหายไปตามป่านั้นก็พบรอยเท้า  จึงสะกดรอยตามไปจนถึงข้างเสาเมโรและไม่มีรอยปรากฏไปทางอื่นเลนยายแก่กับชาวบ้านจึงตั้งชื่อแห่งนี้ว่าแพะเมืองผี
แพะ  ภาษาพื้นเมืองแปรว่าป่าละเมาะ
เมืองผี  หมายถึง  ความเงียบเหงาวังเวงเหมือนเมืองผี
เสาเมโร   ภาษาพื้นเมืองหมายถึงเสารูปเหมือนปราสาทที่ใช้ครอบศพผู้ตายทางภาคเหนือ
              สามเหลียมทองคำเป็นรอยต่อของแผ่นดิน   3 ประเทศ ได้แก่ ลาว ไทย พม่า เรียกที่แห่งนี้ว่าสบรวก    มีแม่น้ำสองสายมีน้ำสองสีไหลมาประจบกันคือแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง   ทางตอนบนของพม่าเป็นประเทศจีน   และมีเรือสินค้าที่ทำการค้าขายระหว่างประเทศต่างๆ                                                                     
        มิวเสี่ยมสยามให้ความรู้เรื่องคนกบแดง ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของตนกำเนิดของบรรพบุรุษของคนไทย และลักษณะของความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อน  มีวิวัฒนาการของมนุษย์  เครื่องมือเครื่องใช้ของคนสมัยก่อน ที่ทำด้ายหินและแร่บางชนิดเช่นทองแดง  ดีบุก  อีกเรื่องคือไม่มีสวรรณภูมิในแผนที่ไม่มีคนเคยเหยียบกรุงเทพเลยเพราะพื้นที่แห่งนี้อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และเรื่องราวของพันธุ์ข้าวธรรมดาและข้าวเหนียวในอดีตที่ได้พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน   ที่อยู่อาศัยของคนสมัยก่อนอยู่ในถ้ำใช้หินในการจุดไฟ   และเป็นที่ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องใช้ของคนสมัยโบราณ เช่า รถ  พิมพ์ดีด ตู้ไปรษณีย์  และโรงน้ำชาของคนสมัยนั้น
             ความรู้เรื่องส้วมให้ความรู้ไว้ว่าก่อนหน้านี้แม้ประชาก่อนไทยยังไม่มีส้วมทุกบ้านแต่ห้องส้วมของบางบ้านก็อาจแพงกว่าทั้งหลังของใครหลายๆคนและได้ใช้อุปกรณ์หลายๆอย่างในการชำระอุจจาระ อย่างเช่น  ถุงเท้า  กาบมะพร้าว   กระดาษ
                การไปเที่ยวครั้งนี้ข้าพเจ้าสนุกมาก ได้ความรู้มากมายและได้ประสบการณ์หลายๆอย่างในชีวิต